Original Photo Credit: www.ronspo.com
* ของดบริการอ่านข้อความให้ฟังก่อนชั่วคราวนะครับ (ตอนนี้ยุ่งมากครับ)
เปิดลายแทงการก้าวขึ้นเป็นซูเปอร์สตาร์มวยโลกคนใหม่ของ ‘มอนสเตอร์’ นาโอยะ อิโนอุเอะ แชมป์โลกรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวตของ WBC และจูเนียร์เฟเธอร์เวตของ WBO คนใหม่ชาวญี่ปุ่น ซึ่งมีรายงานข่าวจากประเทศญี่ปุ่นที่ระบุว่า ทางทีมงาน ‘โอฮาชิ ยิม’ และ ‘ทีม อิโนอุเอะ’ ได้วางแผนอนาคตของยอดมวยรายนี้ร่วมกันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเปรียบเสมือนเป็นการก้าวตามรอยเท้าของ ‘แพ็คแมน’ แมนนี่ ปาเกียว ซูเปอร์สตาร์มวยโลกชาวฟิลิปปินส์นั่นเอง
สำหรับการชกครั้งต่อไปของยอดมวยชาวญี่ปุ่นรายนี้นั้น ทาง โอฮาชิ ยิม ก็ได้เปิดเผยว่าได้วางโปรแกรมเอาไว้ในช่วงเดือนธันวาคมของปีนี้ในญี่ปุ่น ซึ่งก็คือการหาแชมป์โลกหนึ่งเดียวของสถาบันหลักในพิกัด 122 ปอนด์ กับ เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นเดียวกันชาวฟิลิปปินส์ มาร์ลอน ทาปาเลส เจ้าของเข็มขัด ซูเปอร์ เวิลด์ แชมเปี้ยน ของ WBA และแชมป์โลกของ IBF คนปัจจุบันนั่นเอง ซึ่งทาง ฮิเดยูกิ โอฮาชิ นายใหญ่นั้นได้เล็งสถานที่จัดการแข่งขันเอาไว้ที่ โตเกียว โดม หรือไม่ก็จะต้องเป็นสังเวียนที่ใหญ่มากๆขนาดที่รองรับผู้ชมได้ราวๆ 1 แสนคนด้วยกัน
สำหรับในปีหน้า หรือ 2024 นั้น ยอดมวยรายนี้ยืนยันว่าจะยังคงปักหลักชกในพิกัด 122 ปอนด์ตลอดทั้งปี โดยจะขึ้นป้องกันตำแหน่งไฟต์บังคับของ WBC กับ หลุยส์ เนรี่ อดีตแชมป์โลกรุ่น 118 และ 122 ปอนด์ของ WBC ชาวเม็กซิกัน ส่วนคู่ตะบันอีกรายนั้นจะเป็นภาคบังคับของ WBO กับ จอห์น รีล คาซิเมโร่ อดีตแชมป์โลก 3 รุ่น (108IBF/interimWBO, 112IBF และ 118WBO) ชาวฟิลิปปินส์ และจะเป็นไฟต์สุดท้ายของเขาในปีหน้านี้ด้วย
และเมื่อผ่านด่านอันตรายทั้ง 2 ไปได้แล้วนั้น ในปี 2025 ทีมก็วางแผนที่จะส่งเขาข้ามรุ่นอีกครั้งเพื่อชิงแชมป์โลกรุ่นเฟเธอร์เวตอันเป็นรุ่นที่ 5 ต่อไป โดยเล็งเป้าไปที่ โรเบซี่ รามิเรซ แชมป์โลกคนปัจจุบันในรุ่นนี้ของ WBO ชาวคิวบา ที่เพิ่งจะมาสอนเชิงเอาชนะ TKO5 ซาโตชิ ชิมิซุ เพื่อนร่วมค่าย โอฮาชิ ยิม ในรายการเดียวกันกับที่เขาคว้าแชมป์โลกรุ่นที่ 4 เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมานี้เอง แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีข้อแม้ว่าแชมป์โลกชาวคิวบารายนี้นั้น ก็จะยังคงต้องรักษาตำแหน่งเอาไว้ได้ด้วย
ดูเหมือนว่าต้นสังกัดของเขานั้นจะไม่ได้ต้องการให้เขาอยู่ในพิกัด 126 ปอนด์นานมากนัก เพราะได้วางแผนที่จะให้เขาขยับรุ่นไปลุยพิกัดซูเปอร์เฟเธอร์เวตและไลต์เวต เพื่อที่จะคว้าแชมป์โลกรุ่นที่ 6 และ 7 มาครองให้ได้ต่อไป โดยตั้งเป้าที่จะตามล่าซูเปอร์สตาร์ของรุ่นไลต์เวตในปัจจุบันตัวอย่างเช่น เกวอนต้า ดาวิส แชมป์โลกของ WBA ชาวอเมริกัน และ วาซิลี่ โลมาเชงโก้ ยอดมวยชาวยูเครนให้ได้ด้วย หากว่าเวลานั้นสตาร์เหล่านั้นยังไม่ข้ามรุ่นหรือว่าแขวนนวมเลิกชกไปเสียก่อน
และหากว่าเขาทำได้ตามเป้าทั้งหมดนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นแชมป์โลกสถาบันหลัก 7 รุ่นคนแรกและคนเดียวของประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงเป็นแชมป์โลกสถาบันหลัก 7 รุ่นอย่างเป็นทางการคนแรกของโลก เหนือต่อ แมนนี่ ปาเกียว ซูเปอร์สตาร์ฟิลิปปินส์ที่ได้ครองแชมป์โลกสถาบันหลักเพียงแค่ 6 รุ่น (ที่มีการนับเป็น 8 รุ่นนั้นก็เป็นเพราะว่านับรวมแชมป์ 126IBO และ 140Ring Magazine เข้าไปด้วย) เพียงเท่านั้น ถึงเวลานั้นแล้วชื่อของ นาโอยะ อิโนอุเอะ ก็จะกลายเป็นหนึ่งใน ‘ยอดนักชกตลอดกาล’ ของโลกอย่างสมภาคภูมิ
เปิดลายแทงการก้าวขึ้นเป็นซูเปอร์สตาร์มวยโลกคนใหม่ของ ‘มอนสเตอร์’ นาโอยะ อิโนอุเอะ แชมป์โลกรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวตของ WBC และจูเนียร์เฟเธอร์เวตของ WBO คนใหม่ชาวญี่ปุ่น ซึ่งมีรายงานข่าวจากประเทศญี่ปุ่นที่ระบุว่า ทางทีมงาน ‘โอฮาชิ ยิม’ และ ‘ทีม อิโนอุเอะ’ ได้วางแผนอนาคตของยอดมวยรายนี้ร่วมกันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเปรียบเสมือนเป็นการก้าวตามรอยเท้าของ ‘แพ็คแมน’ แมนนี่ ปาเกียว ซูเปอร์สตาร์มวยโลกชาวฟิลิปปินส์นั่นเอง
สำหรับการชกครั้งต่อไปของยอดมวยชาวญี่ปุ่นรายนี้นั้น ทาง โอฮาชิ ยิม ก็ได้เปิดเผยว่าได้วางโปรแกรมเอาไว้ในช่วงเดือนธันวาคมของปีนี้ในญี่ปุ่น ซึ่งก็คือการหาแชมป์โลกหนึ่งเดียวของสถาบันหลักในพิกัด 122 ปอนด์ กับ เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกรุ่นเดียวกันชาวฟิลิปปินส์ มาร์ลอน ทาปาเลส เจ้าของเข็มขัด ซูเปอร์ เวิลด์ แชมเปี้ยน ของ WBA และแชมป์โลกของ IBF คนปัจจุบันนั่นเอง ซึ่งทาง ฮิเดยูกิ โอฮาชิ นายใหญ่นั้นได้เล็งสถานที่จัดการแข่งขันเอาไว้ที่ โตเกียว โดม หรือไม่ก็จะต้องเป็นสังเวียนที่ใหญ่มากๆขนาดที่รองรับผู้ชมได้ราวๆ 1 แสนคนด้วยกัน
สำหรับในปีหน้า หรือ 2024 นั้น ยอดมวยรายนี้ยืนยันว่าจะยังคงปักหลักชกในพิกัด 122 ปอนด์ตลอดทั้งปี โดยจะขึ้นป้องกันตำแหน่งไฟต์บังคับของ WBC กับ หลุยส์ เนรี่ อดีตแชมป์โลกรุ่น 118 และ 122 ปอนด์ของ WBC ชาวเม็กซิกัน ส่วนคู่ตะบันอีกรายนั้นจะเป็นภาคบังคับของ WBO กับ จอห์น รีล คาซิเมโร่ อดีตแชมป์โลก 3 รุ่น (108IBF/interimWBO, 112IBF และ 118WBO) ชาวฟิลิปปินส์ และจะเป็นไฟต์สุดท้ายของเขาในปีหน้านี้ด้วย
และเมื่อผ่านด่านอันตรายทั้ง 2 ไปได้แล้วนั้น ในปี 2025 ทีมก็วางแผนที่จะส่งเขาข้ามรุ่นอีกครั้งเพื่อชิงแชมป์โลกรุ่นเฟเธอร์เวตอันเป็นรุ่นที่ 5 ต่อไป โดยเล็งเป้าไปที่ โรเบซี่ รามิเรซ แชมป์โลกคนปัจจุบันในรุ่นนี้ของ WBO ชาวคิวบา ที่เพิ่งจะมาสอนเชิงเอาชนะ TKO5 ซาโตชิ ชิมิซุ เพื่อนร่วมค่าย โอฮาชิ ยิม ในรายการเดียวกันกับที่เขาคว้าแชมป์โลกรุ่นที่ 4 เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมานี้เอง แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีข้อแม้ว่าแชมป์โลกชาวคิวบารายนี้นั้น ก็จะยังคงต้องรักษาตำแหน่งเอาไว้ได้ด้วย
ดูเหมือนว่าต้นสังกัดของเขานั้นจะไม่ได้ต้องการให้เขาอยู่ในพิกัด 126 ปอนด์นานมากนัก เพราะได้วางแผนที่จะให้เขาขยับรุ่นไปลุยพิกัดซูเปอร์เฟเธอร์เวตและไลต์เวต เพื่อที่จะคว้าแชมป์โลกรุ่นที่ 6 และ 7 มาครองให้ได้ต่อไป โดยตั้งเป้าที่จะตามล่าซูเปอร์สตาร์ของรุ่นไลต์เวตในปัจจุบันตัวอย่างเช่น เกวอนต้า ดาวิส แชมป์โลกของ WBA ชาวอเมริกัน และ วาซิลี่ โลมาเชงโก้ ยอดมวยชาวยูเครนให้ได้ด้วย หากว่าเวลานั้นสตาร์เหล่านั้นยังไม่ข้ามรุ่นหรือว่าแขวนนวมเลิกชกไปเสียก่อน
และหากว่าเขาทำได้ตามเป้าทั้งหมดนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นแชมป์โลกสถาบันหลัก 7 รุ่นคนแรกและคนเดียวของประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงเป็นแชมป์โลกสถาบันหลัก 7 รุ่นอย่างเป็นทางการคนแรกของโลก เหนือต่อ แมนนี่ ปาเกียว ซูเปอร์สตาร์ฟิลิปปินส์ที่ได้ครองแชมป์โลกสถาบันหลักเพียงแค่ 6 รุ่น (ที่มีการนับเป็น 8 รุ่นนั้นก็เป็นเพราะว่านับรวมแชมป์ 126IBO และ 140Ring Magazine เข้าไปด้วย) เพียงเท่านั้น ถึงเวลานั้นแล้วชื่อของ นาโอยะ อิโนอุเอะ ก็จะกลายเป็นหนึ่งใน ‘ยอดนักชกตลอดกาล’ ของโลกอย่างสมภาคภูมิ
แสดงความคิดเห็น