Photo Credit: Yolanda van der Stoep via www.germistoncitynews.co.za
'ไวลด์ บีสต์' เอเดรียน เลอราซาน (12-5-0; 5KO) หรือที่สื่อฟิลิปปินส์เรียกขานกันว่า 'ไทย คิลเลอร์' เข็มขัดแชมป์ WBA Asia รุ่นซูเปอร์ฟลายเวตปลิวจากเอวแล้ว หลังจากที่ลดน้ำหนักจนบักโกรกก่อนจะพลาดท่าพ่ายโดน ริคาร์โด้ 'เมจิก แมน 'มาลาจิก้า (11-2-0; 9KO) แชมป์ซูเปอร์ฟลายเวต WBA Pan African ถลุงจนช้ำแถมโดนต่อยนับด้วย จนเจ้าตัวส่ายหน้าขอยอมแพ้ไปในยกที่ 5 เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา ในบ้านของนักชกแอฟริกาใต้
โดยอันดับล่าสุดของ WBA Asia ที่ประกาศออกมาไม่นานนัก (แต่ระบุวันที่ย้อนหลังเป็น 24 มีนาคม 2566) ไม่มีชื่อของเลอราซานเป็นแชมป์รุ่นซูเปอร์ฟลายเวตอีกต่อไปแล้ว และหัวตารางปรากฎข้อความว่า 'แชมป์ว่าง' นั่นหมายถึงการพ่ายแพ้ของเลอราซานในการชกไฟต์ล่าสุดที่ผ่านมา ที่เป็นการชกในพิกัด 115 ปอนด์ตามพิกัดรุ่นที่ตนเองครองแชมป์อยู่ ส่งผลให้ทาง WBA Asia นั้นต้องปลดเขาออกจากตำแหน่งแชมป์รุ่นซูเปอร์ฟลายเวตแล้วตามกฎ
ความจริงแล้วก่อนหน้านั้นเลอราซานที่เป็นเจ้าของแชมป์ซูเปอร์ฟลายเวตของ WBC Asia อยู่ด้วยนั้น ถูกทาง WBC Asia ถอดออกจากตำแหน่งตั้งแต่ก่อนที่จะเดินทางไปชกที่แอฟริกาใต้แล้ว ทั้งนี้เพราะว่าหลังจากที่เขาได้ครองแชมป์ดังกล่าวด้วยการเอาชนะ TKO พงษพล ปัญญาคำ (17-2-0; 10KO) เจ้าของตำแหน่งคนก่อนชาวไทยในยกที่ 7 เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ปีที่แล้วนั้น เขาก็ไม่ได้ขึ้นป้องกันตำแหน่งกับใครเลยนานถึง 1 ปีเต็ม ทำให้ทางสถาบันนั้นตัดสินใจที่จะถอดเข็มขัดจากเอวของเขาไปก่อนแล้วตั้งแต่เมื่อเดือนที่ผ่านมา
ในขณะที่ผู้แพ้อย่างพงษพลนั้นกลับมาอุ่นเครื่องได้ถึง 5 ไฟต์แล้ว แต่ทางเลอราซานั้นกลับขึ้นชกไปเพียง 2 ครั้งเท่านั้น โดยครั้งแรกเป็นการเอาชนะ TKO สาม แทนเทเลคอม (10-1-0; 6KO) ไปในยกที่ 9 แย่งเข็มขัดแชมป์ WBA Asia รุ่นซูเปอร์ฟลายเวตจากนักชกไทยไปครองได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมปีที่ผ่านมา และล่าสุดก็พึ่งจะแพ้ TKO ให้กับ ริคาร์โด้ มาลาจิก้า ไปในยกที่ 5 เมื่อวันที่ 16 มีนาคมปีนี้ และผลพวงจากความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ ประกอบกับที่ไม่ได้ขึ้นป้องกันตำแหน่งมานานเกือบ 7 เดือน ก็ทำให้ทาง WBA Asia ปลดเขาออกจากตำแหน่งแชมป์ไปอีกสถาบันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ปัจจุบันเลอราซานเป็นรองแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวตอันดับ 9 ของ WBC และอันดับ 14 ของ WBA แต่ความพ่ายแพ้หนล่าสุดของเขานั้น ก็อาจที่จะทำให้เขานั้นหลุดออกจากอันดับท็อป 15 ของทั้ง 2 สถาบันไปได้เช่นกัน แล้วก็มีโอกาสสูงด้วย คอยดูอันดับใหม่ของ WBA ที่จะออกมาในวันที่ 1 เมษายน และของ WBC ที่จะออกมาในช่วงของกลางเดือนเมษายน (ตามเวลาประเทศไทย) กันให้ดีๆ
แสดงความคิดเห็น