Photo Credit: www.tapology
'ไอ้หมัดปืนกล' ผึ้งหลวง ส.สิงห์อยู่ (55-11-0; 37KO) อดีตแชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวตของ WBO ของไทยเรา มีคิวชีพจรลงเท้าอีกครั้ง เมื่อทาง 'มิซาโกะ โปรโมชั่นส์' ขึ้นป้ายให้เป็นคู่มวยคู่ที่ 4 ของรายการ Fuji Boxing Diamond Globe ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 เมษายนนี้ ที่เวที โครักคุเอ็ง ฮอลล์ ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
โดยการชกของผึ้งหลวงในครั้งนี้นั้น จะเป็นการชกในพิกัดไลต์เวต 135 ปอนด์ กำหนด 8 ยก โดยจะพบกับ มาซาฮิโระ ซูซุกิ (8-1-0; 5 KO) ดีกรีรองแชมป์ OPBF อันดับ 5 และ WBO Asia-Pacific อันดับ 14 รุ่น ซูเปอร์ไลต์เวต (จูเนียร์เวลเตอร์เวต) และรองแชมป์ JBC อันดับ 3 รุ่นไลต์เวต นักชกจาก 'คาโดเอบิ บ็อกซิ่ง ยิม' วัย 27 ปี ดีกรีอดีตแชมป์ JBC รุ่นซูเปอร์ไลต์เวตที่ไม่เคยเสียตำแหน่งให้ใคร เพราะสละตำแหน่งลดรุ่นลงมาชิงแชมป์ JBC รุ่นไลต์เวต แต่พลาดท่าพ่าย TKO ชู อุตซิกิ (12-0-0; 10KO) ไปในยกที่ 9 ในการชิงแชมป์ที่ว่าง
แม้ว่าปัจจุบันผึ้งหลวงจะมีอายุเพียง 33 ปีเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้อยู่ในเส้นทางของการเป็นมวยสร้างของโปรโมชั่นใดๆอีกต่อไปแล้ว ซึ่งน่าเสียดายเป็นอย่างมาก เพราะซ้อมเองต่อยเอง และแบกน้ำหนักคู่ชกมาโดยตลอดในระยะหลังๆ ทำให้เข้าเพลสเสียเป็นส่วนใหญ่ ในการชกรอบ 5 ปีหลังของเขานี้ อย่างไรก็ดีเชื่อว่าหากได้มาซ้อมอย่างจริงจังและทำน้ำหนักชกได้ในพิกัดที่เหมาะสม ผึ้งหลวงก็น่าที่จะเป็นด่านสกัดดาวรุ่งของไทยเราได้เป็นอย่างดี และอาจจะได้แชมป์ย่อยสักเส้นมาคาดเอวในช่วงท้ายๆของอาชีพพ่อค้ากำปั้น
ขอให้โชคดี 'ไอ้หมัดปืนกล' อดีตแชมป์โลกที่เคยสร้างความสุขให้กับแฟนมวยชาวไทยมาช้านาน
ผึ้งหลวงเป็นชาวจังหวัดอุทัยธานี เกิดเมื่อวันที่ 8 กันยายน 1989 ปัจจุบันอายุได้ 33 ปี 6 เดือน เป็นมวยขวาที่มีส่วนสูง 164 เซ็นติเมตร แต่มีช่วงชกยาวถึง 170 เซ็นติเมตร เขาขึ้นชกมวยสากลอาชีพเมื่อปี 2004 และคว้าแชมป์โลกเยาวชน WBC Youth World ที่ว่างในรุ่นแบนตั้มเวตมาครองได้สำเร็จในการชกอาชีพไฟต์ที่ 11 และป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ 5 ครั้ง สลับกับการอุ่นเครื่องชนะรวดอีกหลายไฟต์ ก่อนที่จะไปพลาดท่าเสียแชมป์ที่ฝรั่งเศสในปี 2009 แบบค้านสายตา
แต่ในปีเดียวกันผึ้งหลวงก็สามารถที่จะชิงแชมป์ WBO Asia-Pacific Youth รุ่นแบนตั้มเวตที่ว่างมาตรองได้เป็นเส้นที่ 2 ก่อนที่จะป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ 6 ครั้ง สลับกับการอุ่นเครื่องเช่นเคย ก่อนที่เขาจะได้รับโอกาสทองบินไปชิงแชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวตของ WBO ที่ว่างที่ฟิลิปปินส์ และก็หักปากกาเซียนเอาชนะน็อคคู่ชกเจ้าถิ่นไปในยกที่ 9 กลายเป็นแชมป์โลกคนใหม่อย่างยิ่งใหญ่ เมื่อปี 2012 อย่างไรก็ดีผึ้งหลวงก็ครองแชมป์โลกได้เพียงแค่ไม่กี่เดือน ก็ต้องบินไปเสียตำแหน่งด้วยการแพ้คะแนนให้กับนักชกนามิเบียในบ้านของผู้ท้าชิงอย่างน่าเสียดายในปี 2013
ผึ้งหลวงกลับมาชิงแชมป์ว่าง WBO International รุ่นแบนตั้มเวตที่ว่างมาครองได้สำเร็จในปีเดียวกัน ก่อนที่จะขึ้นป้องกันตำแหน่งได้ 2 ไฟต์ สลับกับอุ่นหมัด จนได้โอกาสบินไปชิงแชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวตของ WBO อีกครั้งที่อเมริกา แต่ก็ถูกตุ๊ยน็อคไปในยกที่ 7 ชิงแชมป์โลกไม่สำเร็จในปี 2014
ปีเดียวกันผึ้งหลวงมาได้ครองแชมป์ WBO Asia-Pacific ที่ว่างในรุ่นแบนตั้มเวตในปีเดียวกันนั่นเอง จากนั้นขึ้นอุ่นหมัดและป้องกันแชมป์อย่างละครั้ง ก่อนที่จะได้รับโอกาสขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวตของ WBO เป็นหนที่ 3 ในบ้านเราเอง และก็เอาชนะน็อคนักชกญี่ปุ่นในยกที่ 2 คว้าแชมป์โลกมาครองได้เป็นสมัยที่ 2 ในปี 2015 จากนั้นก็ป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้หนหนึ่ง ก่อนที่มาพลาดท่าแพ้น็อคผู้ท้าชิงชาวฟิลิปปินส์ในยก 11 คาบ้าน เสียแชมป์โลกไปในการป้องกันตำแหน่งหนที่ 2 เท่านั้น
ผึ้งหลวงวางนวมไป 2 ปีก่อนที่จะกลับมาภาคใหม่แบบไร้สังกัด และออกไปรับจ๊อบเดินสายยังต่างประเทศหลายไฟต์ โดย 10 ไฟต์หลังสุดนี้ผึ้งหลวงแพ้ถึง 7 ไฟต์ และชนะเพียง 3 ไฟต์เท่านั้น แต่ก็ยังได้เป็นแชมป์ WBA Asia รุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวตอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยได้แชมป์มาจากการเอาชนะน็อคนักชกรุ่นน้องร่วมชาติในยกที่ 7 แต่ก็ไม่ได้ป้องกันตำแหน่งจนกระทั่งถูกปลดไปในที่สุด
แสดงความคิดเห็น