Photo Credit: www.sanspo.com
www.sanspo.com หนึ่งในเว็บไซต์กีฬาชื่อดังของญี่ปุ่น ได้นำเสนอข่าวการขึ้นชิงแชมป์โลกของ ยูได ชิเงโอกะ (6-0-0; 4KO) อดีตแชมป์มินิฟลายเวต WBO Asia-Pacific และ อดีตแชมป์มินิมั่มเวต JBC วัย 25 ปีเป็นที่แรกอย่างเป็นทางการของประเทศแล้วในช่วงเย็นวันนี้ โดยยูไดจะขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นสตรอว์เวตของ WBC ในฐานะรองแชมป์โลกอันดับ 4 กับเจ้าของตำแหน่งชาวไทย เพชรมณี ซีพีเอฟ (39-1-0; 23KO) ที่ โยโยกิ ยิมเนเซียม 2 ในกรุงโตเกียว ร่วมรายการเดียวกันกับ กิงจิโระ ชิเงโอกะ (8-0-0; 6KO, 1NC) น้องชายวัย 23 ปีของตนเอง ในวันที่ 16 เมษายนนี้ โดยหวังว่าจะเป็นพี่น้องคู่แรกของญี่ปุ่น ที่ชิงแชมป์ระดับโลกได้สำเร็จในรายการเดียวกัน
และหากว่ายูไดทำได้สำเร็จแล้ว เขาก็จะกลายเป็นนักชกชาวญี่ปุ่นที่ได้ครองแชมป์โลกด้วยการชกเพียงแค่ 7 น้อยครั้งที่สุดเป็นอันดับ 3 อีกคนหนึ่งเทียบเท่ากับ คาซูโตะ อิโอกะ (29-2-1; 19KO) เป็นรองแค่ นาโอยะ อิโนอุเอะ (24-0-0; 21KO) ที่ได้ครองแชมป์โลกเส้นแรกในการชกอาชีพไฟต์ที่ 6 และ โคเซ ทานากะ (18-1-0; 10KO) ที่ได้ครองแชมป์โลกรุ่นแรกในการชกอาชีพไฟต์ที่ 5 เพียงแค่ 2 คนเท่านั้น
เว็บไซต์แห่งนี้คาดการว่า ทาง 'คาเมดะ โปรโมชั่นส์' นั้น น่าที่จะทำการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการของมวยรายการนี้ในช่วงต้นเดือนมีนาคม โดยนอกจากจะมีคู่ของ 'เพชรมณี-ยูได' แล้ว ยังจะมีการขึ้นชิงแชมป์โลกเฉพาะกาลที่ว่างในรุ่นมินิฟลายเวตของ IBF ระหว่าง กิงจิโระ ชิเงโอกะ กับ เรเน่ มาร์ค ควาร์โต้ (21-3-2; 12KO) อดีตแชมป์โลกเส้นจริงรุ่นและสถาบันนี้ชาวฟิลิปปินส์ เป็นคู่เอกร่วมในรายการเดียวกันนี้ด้วย ซึ่งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังจากที่น้องชายของเขาพลาดหวังในการชิงแชมป์โลกครั้งแรก ทางยูไดก็ได้โพสต์อินสตราแกรมส่วนตัวถึงน้องชายของตนเองว่า 'ปีนี้เราจะชิงแชมป์โลกพร้อมๆกันนะ' พร้อมทั้งตั้งเป้าว่า ทั้งคู่จะเป็น 'ยูนิฟายด์ เวิลด์ แชมเปี้ยน - แชมป์โลก 2 สถาบัน' ในรุ่น 105 ปอนด์กันให้ได้
ยูได ชิเงโอกะ เกิดเมื่อวันที่ 16 เมษายน 1997 ที่คุมาโมโตะ เขาเป็นมวยซ้ายเจ้าของส่วนสูง 160 เซ็นติเมตร โดยเริ่มชกมวยสากลสมัครเล่นตั้งแต่เมื่อเขายังเรียนอยู่ในชั้นปีแรกของมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1 หรือ เกรด 7) และเมื่อเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายเขาก็สามารถที่จะคว้าแชมป์สากลสมัครเล่นรุ่นพินเวตมาครองได้ถึง 4 รายการ จากนั้นก็สามารถที่จะคว้าแชมป์มวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์ประเทศญี่ปุ่น รายการ All Japan Boxing Championship ในรุ่นไลต์ฟลายเวตมาครองได้อีก พร้อมทั้งตั้งเป้าว่าจะเข้าร่วมการแข่งขันใน โตเกียว โอลิมปิก 2020 (แข่งจริงปี 2021) ให้ได้ อย่างไรก็ตามเมื่อสุดท้ายแล้วไม่ได้มีการบรรจุการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นพิกัดไลต์ฟลายเวต ยูไดจึงตัดสินใจลาออกจากมหาวิทยาลัยทากุโชกุ เพื่อหันมาชกมวยสากลอาชีพแทนในสังกัด 'วาตานาเบ้ ยิม' ทันที
ปัจจุบันยูไดมีสถิติการชกอาชีพชนะรวด 6 ไฟต์ (4KO) และได้ครองแชมป์มาแล้ว 3 เส้นด้วยกัน คือ JBC Youth รุ่นไลต์ฟลายเวต, WBO Asia-Pacific รุ่นมินิฟลายเวต และ JBC รุ่นมิมินั่มเวต และเมื่อปลายปีที่ผ่านมาทางนายใหญ่ของค่าย ก็ได้มอบหมายให้ทาง โกกิ คาเมดะ (33-2-0; 18KO) อดีตแชมป์โลก 3 รุ่น คนโตของ 'คาเมดะ โปรโมชั่นส์' รับหน้าที่เป็นโปรโมเตอร์ให้กับทั้งเขาและน้องชาย และคาเมดะผู้พี่ก็ได้ส่งชิเงโอกะผู้น้องขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นมินิฟลายเวตของ IBF จาก แดเนียล บัลญาดาเรส (26-3-1; 15KO, 1NC) แชมป์โลกชาวเม็กซิกันไปเมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา แต่การชกก็ต้องจบลงในแบบไม่มีคำตัดสิน เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุศีรษะของแชมป์โลกโขกเข้าที่กรามของนักชกญี่ปุ่นอย่างจัง จนทำให้เจ้าของตำแหน่งหูซ้ายดับและมึนศีรษะอย่างรุนแรง และไม่สามารถที่จะชกต่อไปได้ในยกที่ 3 และหลังจากนั้นก็มีรายงานว่าทางนักชกเม็กซิกันนั้นมีแก้วหูซ้ายทะลุจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย ทำให้ไม่สามารถที่จะหายได้ทันกลับมาป้องกันตำแหน่งกับทางกิงจิโระอีกครั้งในวันที่ 16 เมษายนนี้ อย่างไรก็ดีทาง IBF ก็ได้สั่งการให้ทางกิงจิโระได้ขึ้นชกชิงแชมป์โลกเฉพาะกาลที่ว่างกับ เรเน่ มาร์ค ควาร์โต้ อดีตแชมป์โลกรุ่นมินิฟลายเวตของ IBF ชาวฟิลิปปินส์แทนที่ในรายการนี้
ยูไดจะคว้าเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นสตรอว์เวตของ WBC ไปเป็นของขวัญวันเกิดครบอายุ 26 ปีให้กับตนเองได้หรือไม่ ถาม 2 กำปั้นของเพชรมณีดูก่อนก็แล้วกัน
แสดงความคิดเห็น