Photo Credit: www.izquierdazo.com
โรดอลโฟ มาร์ติเนซ เอสตราด้า อดีตแชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวตของ WBC ชาวเม็กซิกัน คู่ปรับเก่าของ เวนิส บ.ข.ส. อดีตแชมป์โลกรุ่นฟลายเวตของ WBC ชาวไทย ลาโลกแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นการคอนเฟิร์มจากทางสภามวยโลกเอง หลังจากที่มีข่าวลือเรื่องนี้ออกมาตั้งแต่เมื่อ 2-3 วันก่อน
มาร์ติเนซนั้นเกิดเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 1948 และเริ่มเทิร์นโปรเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 1965 หรืออีก 10 วันเขาก็จะอายุครบ 17 ปีเต็ม ก่อนจะกวาดชัยชนะมาได้ถึง 28 ครั้งและเสมอหนเดียว ทำให้ได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์ NABF รุ่นแบนตั้มเวตที่ว่างกับ ราฟาเอล เฮอร์เรร่า เพื่อนร่วมชาติ แต่ก็ตกเป็นฝ่ายพ่ายคะแนนไปด้วยเสียงข้างมาก ชวดแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย
มาร์ติเนซกลับมากู้ชื่อชนะรวด 5 ไฟต์ก็ได้รับโอกาสให้ชิงแชมป์เส้นเดิมที่ว่างกับ อ็อคตาวิโอ้ โกเมซ และคราวนี้เขาไม่พลาด เพราะเก็บโกเมซได้สำเร็จแค่ยกที่ 6 เท่านั้น ก่อนที่จะขึ้นอุ่นหมัดชนะอีกไฟต์หนึ่ง จึงได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวตของ WBC ที่ว่างกับ ราฟาเอล เฮอร์เรร่า คู่ปรับเก่าอีกครั้ง และคราวนี้ทั้งคู่ก็ดวลเดือดกันถึง 5 นับ แต่เป็นทางมาร์ติเนซเองที่โดนนับถึง 4 ครั้ง ก่อนที่จะถูกจับแพ้ TKO ไปในยกที่ 12 ชิงแชมป์โลกหนแรกไม่สำเร็จ เมื่อวันที่ 14 เมษายน 1973
มาร์ติเนซกลับมาขึ้นชกอีก 4 ไฟต์ ซึ่งชนะ 3 และแพ้ 1 ก่อนที่จะได้โอกาสทองขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่นแบนตั้มเวตของ WBC อีกครั้งกับคู่ปรับเก่า ราฟาเอล เฮอร์เรร่า อีกครั้งหนึ่ง และคราวนี้เขาก็เป็นฝ่ายไล่ถลุงเฮอร์เรร่า พ่าย TKO ไปแค่ยกที่ 4 คว้าแชมป์โลกเส้นแรกมาคาดเอวได้อย่างสมภาคภูมิ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 1974 และขึ้นป้องกันตำแหน่งเอาไว้ได้ 2 ครั้ง ก่อนที่จะเดินทางมาป้องกันตำแหน่งหนที่ 3 กับ 'ซ้ายพญายม' เวนิส บ.ข.ส. อดีตแชมป์โลกรุ่นฟลายเวตของ WBC ชาวไทย ที่ อินดอร์สเตเดี้ยม หัวหมาก เมื่อวันที่ 30 มกราคม 1976 ซึ่งเป็นการชิงแชมป์โลกเส้นนี้เป็นหนที่ 2 ของนักชกไทย หลังจากที่เคยแพ้คะแนนอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ให้กับ ราฟาเอล เฮอร์เรร่า ในการชิงหนแรก เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 1973 ที่สหรัฐฯ อย่างไรก็ดีเวนิสก็ทำได้เพียงแพ้คะแนนให้กับมาร์ติเนซอย่างไม่เป็นเอกฉันท์อีกครั้งหนึ่ง ชิงแชมป์โลกรุ่นที่ 2 ไม่สำเร็จอีกหน
อย่างไรก็ดีในการป้องกันตำแหน่งหนที่ 4 มาร์ติเนซก็พลาดท่าถูกนักชกดาวรุ่งรุ่นน้องอย่าง คาร์ลอส ซาราเต้ ถลุงพ่ายน็อคไปในยกที่ 9 เสียแชมป์โลกไปเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 1976 และหลังจากนั้นเขาก็พยามขึ้นชกอีก 5 ไฟต์ แต่ก็ทำได้แค่ชนะ 2 แพ้ 3 และก็ได้ครองแชมป์ซูเปอร์แบนตั้มเวต NABF อยู่ช่วงสั้นๆด้วย
มาร์ติเนซตัดสินใจแขวนนวมหลังจากที่พ่ายคะแนนให้กับเพื่อนร่วมชาติ มานูเอล ลาร่า ทิ้งสถิติชนะ 44 (35KO) แพ้ 7 เสมอ 1 เอาไว้ที่เบื้องหลัง
มาร์ติเนซถึงแก่กรรมเมื่อวันจันทร์ที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา สิริรวมอายุได้ 74 ปี 5 เดือน พอดี
แสดงความคิดเห็น