Photo Credit: www.asisucede.com.mx
คาร์ลอส "เอล ปริ๊นซิเป้" คัวดราส อดีตแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวตของ WBC ได้เข้าร่วมงานแถลงข่าวเล็กๆที่ Otomi Ceremonial Center สถานที่ที่เขาเก็บตัวฟิตซ้อมมานานหลายเดือน เพื่อรอวันเวลาที่จะเผชิญหน้ากับคู่ปรับเก่าและอดีตแชมปฺโลกรุ่นเดียวกันชาวไทย ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ในคืนวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ที่ ฟุตปรินท์ เซ็นเตอร์ ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีเข็มขัดแชมป์โลกเส้นเดิมที่ว่างอยู่เป็นเดิมพัน
โดยงานแถลงข่าวนี้นั้นก็คือการแถลงข่าวการชกของเขากับอดีตแชมป์โลกชาวไทยในครั้งนี้นั่นเอง ซึ่งนักชกเม็กซินั้นก็ได้กล่าวว่า เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เริ่มต้นปี 2022 ด้วยการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ เพราะไม่เพียงแต่ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งและมีชื่อเสียงอย่างอดีตแชมป์โลกชาวไทยเท่านั้น แต่ยังจะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้กลับมามีชื่อเสียในระดับโลกอีกครั้ง เพราะการชกกับศรีสะเกษนั้นนอกจากที่จะทำให้เขาได้มีโอกาสที่จะกลับเข้ามาสู่เส้นทางแห่งชัยชนะได้อีกครั้งหนึ่งแล้วนั้น มันก็ยังจะเป็นโอกาสอันดีที่จะได้โปรโมทตัวของเขาเองสู่วงการมวยระดับโลกได้อีกครั้งหนึ่ง หากว่าเขาได้รับชัยชนะในคืนวันนั้นนั้น ซึ่งตัวเขาเองนั้นมั่นใจมากกว่าจะทำได้สำเร็จอย่างแน่นอน เพราะไม่เพียงแต่ว่าเขาจะเตรียมพร้อมในการซ้อมมาเป็นอย่างดีแล้วนั้น แต่ในวันนี้เขาก็รู้สึกได้ว่าตัวเองนั้นตัวของเขาเองนั้นแข็งแกร่งขึ้นมาก อีกทั้งยังมีประสบการณ์และความสุขุมเพิ่มมากขึ้นด้วย ดัังนั้นเขาจึงขอพูดตรงๆเลยว่า เขาพร้อมที่จะตะบันหน้ากับศรีสะเกษแล้ว ไม่ว่าจะมาการ์ดซ้ายหรือขวาเขาก็ไม่หวั่น (เฮ้ย! ชกแบบมวยขวาไม่เอานะ พี่แหลมเป็นมวยซ้ายชกได้ดีกว่ามากจริงๆ)
คัวดราสนั้นเตรียมพร้อมสำหรับการชกไฟต์นี้มาตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแล้ว เขาแทบไม่เคยที่จะหยุดซ้อมและฟิตร่างกายเลย มีเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นที่เขาพักร่างกายไปช่วงสั้นๆในตอนที่มีการเลื่อนกำหนดการชกออกไป แต่เมื่อมีการคอนเฟิร์มกำหนดการใหม่เขาและทีมงานก็กลับมาซ้อมหนักกันอีกครั้ง ทั้งนี้เพราะเขาเองรู้ดีว่าหากเปรียบเทียบคู่ชกทั้ง 3 ราย คือ โรมัน กอนซาเลซ, ฮวน ฟรานซิสโก้ เอสตราด้า และ ศรีะเกษ นครกลวงโปรโมชั่น แล้ว นักชกชาวไทยนั้นมีพลังหมัดที่ทรงพลังมากกว่าใครทั้งหมด
นอกจากนั้นแล้วยังเชื่อได้ว่าผู้ชนะและได้รับเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวตของ WBC คนใหม่ ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่สังเวียน ฟุตปริ๊นท์ เซ็นเตอร์ นั้น ก็จะมีโอกาสต่อยอดไปพบกับผู้ชนะอย่างเป็นทางการระหว่าง โรมัน "ช็อตโกลาติโต้" กอนซาเลซ และ ฮวน ฟรานซิสโก้ "เอล กัลโญ่" เอสตราด้า ที่จะถือครองแชมป์โลกแฟรนไชส์ของ WBC และ ซูเปอร์ เวิลด์ แชมเปี้ยน ของ WBA ในไฟต์ต่อไป
อย่างไรก็ดีคัวดราสนั้นกล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า สำหรับเขาแล้วนั้นสภามวยโลกคือสถาบันมวยโลกที่เขาต้องการจะเป็นแชมป์โลกมากที่สุด และเขาต้องการที่จะทวงเข็มขัดสีเขียวเส้นเดิมนี้กลับคืนมาให้ได้ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้
เห็นไหม ว่าทำไมหมอนี่จึงเป็นลูกรักของ WBC
แสดงความคิดเห็น