ศึกที่แฟนมวยชาวญี่ปุ่นจำนวนมากรอคอย รายการ “Prime Video Boxing 14” ที่จะมีขึ้นวันที่ 24 พฤศจิกายนนี้ ที่ โตโยต้า อารีน่า โตเกียว ซึ่งคู่เอกจะเป็นการชิงแชมป์โลกรุ่นแบนตัมเวต WBC ที่ว่าง ระหว่าง เทนชิน นาสึกาวะ ดาวรุ่งไร้พ่ายวัย 27 ปีจากสังกัด ไทเก้น ยิม กับ ทาคุมะ อิโนอุเอะ อดีตแชมป์โลกรุ่นแบนตัมเวต WBA วัย 29 ปีจากค่าย โอฮาชิ ยิม เตรียมที่จะเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมล่วงหน้าทาง Lawson Ticket แล้ว ในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 18:00 น. เป็นต้นไป
โดยราคาบัตรนั้นถูกกำหนดไว้หลายระดับ ได้แก่ ริงไซด์ A ราคา 110,000 เยน (ประมาณ 27,500 บาท), ริงไซด์ B ราคา 77,000 เยน (ประมาณ 19,250 บาท), ที่นั่งกำหนด A ราคา 77,000 เยน (ประมาณ 19,250 บาท), ที่นั่งกำหนด B ราคา 55,000 เยน (ประมาณ 13,750 บาท), ที่นั่งกำหนด C ราคา 33,000 เยน (ประมาณ 8,250 บาท), ที่นั่งกำหนด D ราคา 22,000 เยน (ประมาณ 5,500 บาท) และที่นั่งกำหนด E ราคา 11,000 เยน (ประมาณ 2,750 บาท) เพื่อรองรับแฟนมวยทุกกลุ่มที่ต้องการจะเข้าชมการชกครั้งประวัติศาสตร์ในครั้งนี้
การเจอกันครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการประกบคู่ที่ผิดปกติ เพราะโดยทั่วไปนักชกดังที่จะขึ้นชิงแชมป์โลกครั้งแรกที่ว่างนั้นมักที่จะเลือกคู่ต่อสู้ที่ชกง่ายกว่า แต่ทางเทนชินกลับยืนยันอยากเจอกับทาคุมะผู้เป็นน้องชายของ นาโอยะ อิโนอุเอะ แชมป์โลกรุ่น 122 ปอนด์ 4 สถาบันหลัก ทำให้ทางสภามวยโลก หรือ WBC ถึงกับตัดสินใจเลื่อนอันดับทาคุมะขึ้นมาเป็นรองอันดับ 2 เพื่อที่จะให้้เป็นคู่ชกชิงตำแหน่งที่ว่างกับทางเทนชินโดยเฉพาะ
เบื้องหลังการเลือกคู่ชกในครั้งนี้ มาจากแรงกดดันในฐานะที่เทนชินเป็นอดีตนักชกคิกบ็อกเซอร์ที่มีแอนตี้แฟนจำนวนมาก ซึ่งเขามักจะถูกวิจารณ์ว่า “หมัดไม่หนัก” หรือ “น็อกใครไม่ได้” อยู่เสมอ ดังนั้นเขาจึงมองว่าหากได้ครองแชมป์โลกจากการชิงตำแหน่งกับคู่ต่อสู้ที่อ่อนกว่าก็จะยิ่งถูกโจมตี แต่ถ้าเขาสามารถโค่นทาคุมะที่เป็นนักชกซึ่งฝึกมวยสากลมาตั้งแต่เด็กได้ ก็จะเป็นการปิดปากคำวิจารณ์เหล่านั้นได้ทันที
สำหรับเส้นทางของทั้งคู่ เทนชินเพิ่งชนะคะแนนเอกฉันท์เหนือ วิคตอร์ ซานติลยัน รองอันดับ 6 WBA เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ส่วนทาคุมะเคยครองเข็มขัด WBA รุ่นแบนตัมเวต ป้องกันได้ 2 ครั้ง ก่อนแพ้คะแนนเอกฉันท์ต่อ เซยะ ซึซึมิ เสียตำแหน่งไปเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน ดังนั้นการชกครั้งนี้จึงถือเป็นไฟต์ชี้ชะตาของนักชกทั้งคู่ และจะทำการถ่ายทอดสดแบบเอ็กซ์คลูซีฟทาง Amazon Prime Video ตั้งแต่เวลา 17:00 น. ของวันที่ 24 พฤศจิกายน เป็นต้นไป
Original Photo Credit: www.sanspo.com