By: Boxing-Boy 

Original Photo Credit:  
NK Sports
* ของดบริการอ่านข้อความให้ฟังก่อนชั่วคราวนะครับ (ตอนนี้ยุ่งมากครับ)


สตีเฟ่น ฟูลตั้น
(21-0-0; 8KO) แชมป์โลกรุ่น 122 ปอนด์ของ WBC และ WBO ชาวอเมริกัน ซ้อมโชว์สื่อในญี่ปุ่นแล้วในวันนี้ (14 ก.ค. 66) ที่ โอฮาชิ ยิม ถิ่นของ นาโอยะ อิโนอุเอะ (24-0-0; 21KO) ผู้ท้าชิงอดีตแชมป์โลก 3 รุ่นชาวญี่ปุ่น โดยเป็นการซ้อมเบาๆเพียงแค่ 2 นาที 45 วินาที เท่านั้น



เจ้าตัวของแชมป์โลกชาวอเมริกันนั้นทำการวอร์มร่างกายเพียงแค่เบาๆ ประมาณ 1 นาทีเท่านั้น ก่อนที่จะมาทำการทวนเชิงชกลมต่อด้วยระยะเวลาอีกเพียงไม่ถึง 1 นาที จากนั้นก็ตามด้วยต่อยพั๊นชิ่งบอลอีกราวๆ 30 วินาทีเท่านั้นเป็นการเสร็จพิธีการซ้อมโชว์สื่อ โดยทางฟูลตั้นนั้นบอกว่าเขาไม่ต้องการที่จะโชว์อะไรมากนักให้กับทุกคนได้เห็น (ประมาณว่ากั๊กไว้ กลัวแผนรั่ว) และก็รู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยในวันนี้



โดยทางฟูลตั้นนั้นให้สัมภาษณ์กับคนข่าวเจ้าถิ่นว่า นับตั้งแต่เขาเดินมาถึงญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อค่ำของวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น เขาก็ทำเพียงแค่กินแล้วก็ซ้อมกับกินแล้วก็พักผ่อนเพียงเท่านั้น ไม่ได้ออกไปเที่ยวไหนเลย ร่างกายของเขานั้นก็ดีขึ้นเรื่อยๆ และน้ำหนักก็ลดลงเรื่อยๆเช่นกัน แต่พอผู้สื่อข่าวท้องถิ่นสอบถามว่าแล้วตอนนี้น้ำหนักของเขาอยู่ที่เท่าไหร่ ทางฟูลตั้นก็ยกนิ้วขึ้นจุ๊ปากแล้วก็อมยิ้ม ก่อนที่จะบอกว่าเรื่องนี้เป็นความลับ และเขาเองก็บอกได้แต่เพียงว่าเขาเตรียมตัวในเรื่องนี้มาอย่างดีแล้วเท่านั้น และก่อนหน้าที่จะมาซ้อมโชว์ที่ โอฮาชิ ยิม ในวันนี้ ก่อนหน้าเขาก็ไปซ้อมมาก่อนหน้านี้แล้วที่อื่นเหมือนกับทุกๆวันที่ผ่านมา



สำหรับการซ้อมของฟูลตั้นในวันนี้ ทาง ชิงโงะ อิโนอุเอะ ยอดคุณพ่อและเทรนเนอร์ของนาโอยะ ก็ได้เดินทางมาชมอยู่ริมเวทีด้วยเช่นกัน ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์ว่า เขาเองรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยที่ฟูลตั้นซ้อมโชว์เพียงแค่ 2 นาทีกว่าๆ และก็ใช้การ์ดขวานำแบบมวยซ้าย ไม่ใช่เป็นมวยขวาเหมือนที่เห็นในการชกหนก่อน แต่เท่าที่เห็นก็พอจะรู้ว่าหมัดของฟูลตั้นนั้นมีพละกำลังอยู่ไม่น้อยเลย อีกอย่างฟูลตั้นดูตัวใหญ่กว่าที่เขาคาดเอาไว้อยู่เล็กน้อยด้วย ดังนั้นเขาจึงจะต้องกลับไปเตรียมลูกชายของตนให้พร้อมมากขึ้น หลังจากที่ได้เห็นตัวจริงของเจ้าของตำแหน่งชาวอเมริกันและการยืนมวยที่ไม่เหมือนปกติในวันนี้ และนอกจากยอดคุณพ่อแล้วทาคุมะน้องชายและโกกิลูกพี่ลูกน้อง ก็ได้มาร่วมชมการซ้อมของฟูลตั้นด้วยเช่นกัน





Photo Credit: NK Sports



Photo Credit: www.hochi.news 



Photo Credit: www.the-ans.jp 



Photo Credit: NK Sports

Post a Comment

ใหม่กว่า เก่ากว่า